อินเดียมีความหลากหลายทางธรรมชาติมากมาย มีทั้งหิมะ ทะเลทราย ภูเขา
และ ทะเล แม้แต่คนอินเดียกันเองก็เข้าใจได้ไม่หมด
หมู่เกาะอันดามันแอนด์นิโคบาร์ เป็นอีกสถานที่หนึ่งของอินเดีย
ที่แตกต่างโดยสิ้นเชิงกับพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศเพราะภูมิประเทศประกอบด้วยเกาะใหญ่น้อย
572เกาะ
ทอดเรียงกัน ท่ามกลางท้องทะเลสีครามเข้ม
ใสสะดุดตาไปหลายๆเมตรจนทำให้เห็นความงามใต้ท้องทะเล ทั้งปาการัง
ฝูงปลาใหญ่น้อยได้อย่างชัดเจน มีประชากรอาศัยอยู่รวมแล้วประมาณ 600,000 คน (ปี 2014) ส่วนใหญ่จะอาศัยอยู่บนเกาะอันดามัน
ตัวอาคารออกแบบอย่างฉลาดคล้ายปลาดาว เป็นแฉกๆมีทางขี้นลงที่จุดเดียวคือตรงกลาง
|
ภาพมุมสูงตัวอาคาร (เครดิตภาพจากเน็ต) |
แต่ละแฉกของอาคารของอาคารซึ่งเป็นห้องขังเรียงกันเป็นตับ ด้านหน้าของห้องขังหนึ่งมองออกมาจะเจอกับด้านหลังของอีกห้องขังหนึ่งที่อยู่ ณ อีกแฉกหนึ่ง ทำนองว่านักโทษแต่ละคนจะไม่มีทางเห็นหน้ากันเลย
|
ด้านหน้าของแต่ละห้องขัง จะมองเห็นด้านหลังของอีกห้องขังที่อยู่อีกแฉกหนึ่ง |
ทางขึ้นลงมีจุดเดียวอยู่ตรงกลาง สามารถขึ้นไปได้จนถึงชั้นดาษฟ้า
|
อาคารที่เห็นคือจุดขึ้นลงซึ่งมีเพียงจุดเดียว |
บรรยากาศบนดาษฟ้า สามารถมองเห็นวิวทะเลชัดเจน หากท้องฟ้าอากาศโปร่งกว่าวันที่ไปถึงคงสวยงามกว่าที่เห็นมาก
|
บนดาษฟ้าบรรยากาศสวยงามมองเห็นทะเลและเกาะได้ชัดเจน |
เกาะที่เป็นจุดสนใจของหมู่เกาะนี้ นอกเหนือจากเกาะใหญ่ 2 เกาะหลัก คืออันดามัน และนิโคบาร์แล้ว ยังมีเกาะอื่นๆอีกเช่น เช่น Ross island
|
ท่าเรือเดินทางไป Ross Island ที่มองเห็นลิบๆอยู่ข้างหน้า |
อยู่ใกล้เมืองท่า Port Blair ซึ่งเป็นเมืองหลวงของหมู่เกาะอันดามันแอนด์นิโคบาร์เพียง 1กม. ใช้เวลาเดินทางโดยเรือแค่ 10-15 นาที แค่นั้นเอง
|
ชายหาดรอบเกาะ Ross Island |
ในอดีตเกาะนี้เป็นที่ตั้งของที่ทำการของอังกฤษ
แต่หลังจากเกิดแผ่นดินไหวหลายครั้งรวมทั้งหลังสงครามโลกครั้งที่2 ที่เกาะนี้ถูกระเบิดถล่มด้วย
ปัจจุบันจึงคงเหลือแต่ซากอาคารต่างๆให้เห็นเท่านั้น
|
ซากอาคารต่างๆซึ่งในอดีตเคยอาคารสวยงาม |
และไม่มีคนอยู่อาศัยมีแต่กวาง
และนกยูงที่ถูกเลี้ยงไว้บนเกาะที่คุ้นกับนักท่องเที่ยวสามารถให้อาหารกับมือได้แทบทุกตัว
|
กวางเชื่องๆเดินไปมาอยู่หลายตัว สามารถให้อาหารกับมือได้ |
ปรกติท่าเรือจาก Port Blair จะให้เวลานักท่องเที่ยวใช้เวลาอยู่บนเกาะ Ross Island ไม่เกิน 3 ชม. ซึ่งจะมีเรือรอบต่อไป ไปส่งนักท่องเที่ยวกลุ่มอื่นอีก พร้อมกลับรับนักท่องเที่ยวก่อนนี้กลับไปยังเกาะอันดามัน
อีกหนึ่งเกาะยอดฮิตคือ Havelock island ที่ใช้เวลาประมาณ 2ชม.จากท่าเรือ Port Blair โดยเรือเฟอรี่ขนาดใหญ่ที่มีให้บริการทั้งของรัฐบาลและเอกชน
|
เกาะ Havelock (เครดิตภาพจากเน็ต) |
หรือเพียง 20 นาทีหากใช้บริการ Seaplane (เครื่องบินวิ่งบนน้ำได้)
|
Seaplane ที่ให้บริการระหว่าง Port Blair กับ Havelock |
ซึ่งบนเกาะนี้ ถือเป็นเกาะที่ต้องไปสำหรับคนไปเที่ยวหมู่เกาะ Andaman & Nicobar เพราะมีหาดที่สวยงามหลายหาด
|
หาดสวยงามบนเกาะ Havelock (เครติดภาพจากเน็ต) |
โดยเฉพาะหาด Radhanagar ที่ Time Magazine ปี 2004 เคยจัดให้เป็นหาดที่สวยงามมากที่สุดในเอเชีย มาแล้ว
|
หาด Radhanagar (เครติตภาพจากเน็ต) |
มีรีสอร์ทหลายแห่งให้ได้พักที่นี่ แต่เนื่องจากผมไปดูงานไม่มีเวลามากนักประกอบกับช่วงนี้เป็นช่วงมรสุม
ผมจึงไม่ได้ข้ามไปดูเกาะแห่งนี้
|
Resort หนึ่งในหลายๆรีสอร์ทบนเกาะ Havelock (เครดิตภาพจากเน็ต) |
ตอนช่วงที่ผมไป 11-13 ก.ค. 14 ถือว่าเป็นช่วง Peak ของมรสุมแล้ว บรรยากาศทั่วไปจึงเต็มไปด้วยเมฆหมอก แถมด้วยฝนเป็นระยะๆ จึงทำให้ไม่มีโอกาสนั่งชมความงามบรรยากาศที่ใดๆได้นานๆประมาณว่าได้แต่เพียงแค่โฉบๆเพื่อเก็บบรรยากาศแค่นั้นเอง
|
ถนนเลียบชายหาดในเมือง Port Blair เมืองหลวงของหมู่เกาะนี้ |
เวลาส่วนใหญ่จึงใช้อยู่แค่บนเกาะอันดามัน โดยใช้เวลานั่งรถไปชมบบรยากาศโดยรวมของเมือง Port Blair รวมทั้งหาดสวยงามบนเกาะ ซึ่งก็มีอยู่หลายหาดเช่นกัน
|
บรรยากาศข้างทางบางจุดในเมือง Port Blair |
|
สภาพถนนในเมือง Port Blair |
เช่น Corbyn's Cove beach อยู่ห่างสนามบินไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ
4.5 กม
|
หาด Corbyn's Cove Beach ที่เป็นยอดฮิตของเกาะอันดามันตอนใต้ |
หาดนี้เป็นหาดที่มีนักท่องเที่ยวไปเที่ยวกันมากที่สุดของเกาะอันดามันตอนใต้ เนื่องจากถือว่าอยู่ในเมืองไปมาสะดวก มีเก้าอี้ชายหาดให้นั่งเล่น และกิจกรรมทางน้ำให้สนุกกันได้ด้วย
|
มีกิจกรรมทางน้ำหลายอย่างให้นักท่องเที่ยวได้สนุก |
นอกนั้นก็มี Wandoor beach ออกนอกเมือง Port Blair ไปทางใต้ประมาณ 25กม.
|
หาด Wandoor Beach ที่สวยงามและไม่พลุกพล่าน |
หาดยังมีความเป็นธรรมชาติมากกว่า Corbyn's Cove นักท่องเที่ยวยังน้อย (อาจจะเพราะช่วงมรสุมดังกล่าว)
|
หาดสวย น้ำใส และนายแบบหล่อ555 |
มีโขดหินสวยให้ได้นั่งเอาเท้าแหย่น้ำให้ปลาตอดเล่นได้ด้วย
|
โขดหินสวยที่หาด Wandoor |
และอีกหาดที่เดินทางไกลลงใต้ออกมาอีกหน่อยคือ Chiriya Tapu beach อยู่ทางตอนใต้สุดของเกาะอันดามัน 28กม.จาก Port Blair
|
หาดยังเป็นธรรมชาติแบบเดิมๆอยู่มาก |
หาดนี้จัดเป็น Eco friendly
beach ด้วย คือทุกอย่างที่ใช้ก่อสร้าง
หรือของใช้ที่นี่ จะทำจากวัสดุธรรมชาติเท่านั้น ไม่มีพลาสติก สังกะสีหรือวัสดุอื่น
เรื่องอนุรักษ์ป่าไม้และสิ่งแวดล้อมนี่ ต้องยอมรับว่าอินเดียเขาทำได้ดีกว่าไทยมากๆ
|
ชายหาดวันไปเที่ยวแทบไม่มีนักท่องเที่ยว |
ปรกติหากเป็นช่วงพ้นมรสุมไปแล้ว จุดขายของหาดนี้อีกอย่างคือไปดูพระอาทิตย์ตกดินที่สีแสงสวยงามมากยามตัดกับทะเลสีคราม แต่วันที่ผมไปนั้น อย่าว่าแต่พระอาทิตย์เลย แสงอาทิตย์แทบมองไม่เห็นเพราะครึ้มฝนทั้งวัน เลยอดมีภาพพระอาทิตย์ตกสวยๆมาฝาก
Mount Harriet เป็นอีกหนึ่งที่
ที่น่าสนใจของเกาะ เนื่องจากเป็นจุดชมวิวสูงสุดของอันดามันตอนใต้สูงประมาณ 366ม.เหนือระดับน้ำทะเล
ไปจุดดังกล่าวจะต้องเอารถใส่เรือ Ferry ข้ามไปอีกเกาะ
|
ขึ้นเฟอร์รี่เพื่อไปดู Mount Harriet |
หลังจากลงเฟอร์รี่แล้ว ก็นั่งรถขึ้นเขาไปอีกประมาณ 15 นาที ระหว่างทางผ่านโบสถ์คริสต์ที่ใหญ่ที่สุดของหมู่เกาะนี้ด้วย
|
Catholic Church Panighat |
เหลือประมาณ 100 ม. สุดท้ายจึงเห็นป้ายทางเข้า และเป็นจุดที่ต้องเดินขึ้นไปเอง
|
จุดที่ต้องเดินเท่าไปเองอีกประมาณ 100 ม. |
จุดสูงสุดที่จัดให้ชมวิว ยอมรับว่าสวยจริงๆสามารถมองเห็นเกาะสำคัญอื่นๆได้หลายเกาะ เสียดายวันที่ไปเป็นยามเย็นทั้งเมฆทั้หมอกเต็มไปหมด มองไปทางไหนก็เห็นแต่สีขาวของหมอก เลยอดเห็นเกาะต่างๆไป
|
ศาลาชมวิว |
ตอนนี้อินเดียกำลังเข้าสู่โหมดพัฒนาอย่างขนานใหญ่
รวมทั้งหมู่เกาะนี้ด้วย จุดขายของอันดามันแอนด์นิโคบาร์คือแหล่งท่องเที่ยว
อินเดียจึงต้องการสร้างหมู่เกาะนี้ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางฝั่งตะวันออกของประเทศ
คู่กับรัฐกัวร์ที่อยู่ทางฝั่งตะวันตก
และตอนนี้ก็ประเดิมด้วยการจะสร้างสนามบินแห่งใหม่บนเกาะนี้
ให้เป็นสนามบินนานาชาติด้วย ต่อไปไม่แน่อาจจะมีสนามบินจากไทยไปหมู่เกาะนี้ด้วยราคาย่อมเยาก็เป็นได้
เพราะใช้เวลาบินไม่เกินครึ่งชั่วโมงเอง
|
ด้านขวามือของภาพคือที่จะสร้างสนามบินอาคารใหม่ให้เป็นสนามบินนานาชาติ |
การไปเกาะนี้ครั้งนี้ของผมก็เพื่อภาระกิจที่ว่านี้ครับ....หากโชคดีได้งานนี้คงได้ย้อนกลับมาชมเกาะนี้อีกครั้ง....หมู่เกาะมรกตแห่งอันดามัน