วันหนึ่งผมไปตีก็อล์ฟที่สนามแห่งหนึ่งในมุมไบ จำได้ว่าวันนั้นเป็นวันหยุดเทศกาลไปถึงจึงทราบว่า แค้ดดี้มีไม่พอเพราะหยุดไปตามเทศกาลกันหมด ก๊วนก่อนผมเป็นอินเดียท่าทางจะเป็นเมมเบอร์สนามเพราะเห็นยืนโล้งเล้งกับแค้ดดี้มาสเตอร์ว่าทำไมไม่มีแค้ดดี้ อย่างนี้ก็ออกไม่ได้สิ
ก๊วนเราคนไทยคิวต่อจากอินเดียก็รู้สึกเซ็งนิดๆเพราะรู้ว่า วันนี้คงต้องลากถุงเองอีกแล้ว ว่าแล้วเราก็ไปติดต่อหา รถลากถุงก็อล์ฟ ได้แล้วก็มาเตรียมตัวออกทีออฟ
ก๊วนถัดจากก๊วนผมเป็นเกาหลี
ผมเห็นเขาเดินมาคุยกับ
แค้ดดี้มาสเตอร์
แป้ปเดียว
จากนั้นทั้ง
3 คนของก็วน ก็เดินแบกถุงตัวปลิวออกรอบไปก่อนใคร
ก๊วนผมก็ลากถุงตามไปเป็นก๊วนถัดมา
ผมทีออฟลูกออกไปแล้ว
เดินออกไปจากหลุม
1 หันหลังกลับไป ก็ยังเห็นก็วนอินเดียโล้งเล้งกับแค้ดดี้มาสเตอร์อยู่ที่แท่นทีออฟยังไม่จบ
สิ่งที่เกิดขึ้นนี้เป็นเรื่องจริง
ทุกองค์กรไม่ว่าเล็กใหญ่ไม่ว่าของประเทศอะไร
เราต่างก็เจอเห็นพฤติกรรมของคน
3 ประเภทนี้ได้เสมอๆ
· ประเภทแรก คนแบบนี้เอาเป้าหมายเป็นที่ตั้ง
แล้วหาวิธีการเพื่อให้ถึงวัตถุประสงค์นั้น
เขาพร้อมที่จะคิดสิ่งใหม่ๆแล้วปรับปรุงวิธีการไปตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปทุกขณะ
โดยไม่ยอมให้เสียเวลาไปอย่างเปล่าประโยชน์
· ประเภทที่
2 คนประเภทนี้ต้องอาศัยตัวช่วยเล็กน้อย
อาจจะเป็นคำปรึกษา
คำอธิบายวิธีการใหม่ที่ใช้ได้เหมือนกัน
เขาก็จะทำตามและได้วัตถุประสงค์เดียวกัน
อาจจะเสียเวลาในการเรียนรู้ตอนแรกเล็กน้อย
· ประเภทสุดท้าย เป็นบุคคลที่ยึดติดกับธรรมเนียมปฏิบัติแบบเก่าๆ
กฎระเบียบที่มีอยู่
ปฏิบัติมาอย่างไรก็จะไปอย่างนั้นสุดท้ายแล้วก็จะใช้เวลาไปกับการหาทางออกแบบเดิม
เสียเวลา
และท้ายสุดแล้วเป้าหมายที่ต้องการก็เลื่อนออกไปหมด
การที่องค์กรหรือประเทศของเราจะเดินหน้าก้าวพ้นปัญหาไปได้ และเจริญรุ่งเรื่องได้อย่างมั่นคงและถาวรนั้น เราทุกคนซึ่งเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรหรือประเทศชาติ
จะต้องคิดแบบคนประเภทที่ 1 หรือ 2 ครับ
เป้าหมายต้องมาก่อน
วิธีการ กฎระเบียบ
ปรับเปลี่ยน ปรับปรุงได้ตามสถานการณ์ครับ