พ.ศ.2535 ได้เกิดจราจลครั้งรุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์อินเดีย
ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 2,000 คนซึ่งส่วนใหญ่เป็นมุสลิม
จากเหตุการณ์ที่ชาวฮินดูได้ลุกฮือขึ้นไปบุกทำลายสุเหร่าบาบรี ที่เมืองอโยธยา (ปัจจุบันอยู่รัฐ
UP) ที่ได้ก่อสร้างขึ้นในสมัยราชวงศโมกุลเรืองอำนาจตั้งแต่ปี
พ.ศ.2071
เพื่อที่จะก่อสร้างวัดฮินดูแทนที่ ตามความเชื่อของพวกเขาที่ว่า
พื้นที่ตรงนั้นเป็นสถานที่ประสูติของพระราม
ที่ชาวฮินดูนับถือเป็นพระเจ้าองค์หนึ่งของเขา
ทั้ง 2 ฝ่ายต่างอ้างสิทธิเหนือพื้นที่ดังกล่าว
และเป็นกรณีพิพาทที่ยืดเยื้อมากว่า 60 ปีแล้ว
มุสลิมต้องการเข้าไปบูรณะสุเหร่าของเขาที่ถูกฮินดูทำลายขึ้นมาใหม่
ขณะที่ฮินดูก็ต้องการสร้างวัดฮินดูตามความเชื่อของเขาขึ้นมาแทนสุเหร่า
ปี พ.ศ.2553 Allahabad High Court ได้พิพากษาให้แบ่งพื้นที่พิพาทออกเป็น
3 ส่วน
และให้ฮินดูมีสิทธิในพื้นที่ 2 ส่วน ขณะที่ให้สิทธิแก่มุสลิม 1 ส่วน
และ ปีพ.ศ. 2556 Supreme Court of India ได้อนุญาตให้คงสถานะของสถานที่
ตามที่เป็นอยู่ (Status Quo) ซึ่งก็ตีความได้ 2 ทางคือที่เป็นอยู่ก่อนถูกทำลาย
หรือที่เป็นอยู่ตามสภาพปัจจุบัน เนื่องจากมีคดีอุธรณ์คำตัดสินของศาล Allahabad
หลายสำนวน
ที่ยังไม่ชี้ขาด และคาดว่าคงดำเนินการพิจารณาไปอีกนาน
ส่วนจะกินเวลาอีกกี่ปีคงไม่มีใครทำนายได้
ดีไม่ดีคดีนี้อาจจะเป็นคดีที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติก็เป็นได้
กล่าวคือคู่ต่อสู้กันจริงๆตอนปี 2535 ตายกันหมดเมื่อไร จึงค่อยตัดสิน
เลือกตั้งทั่วไปของอินเดียที่ทราบผลไปแล้วเมื่อ 16 พ.ค. 2557 โดยประชาชนทั่วประเทศ
เทคะแนนเสียงให้พรรค BJP. มาถล่มทลายเป็นอันดับ 1 เกินครึ่งของคะแนนเสียงทั้งหมด
ซึ่งแน่นอนว่าประชาชนในประเทศต่างคาดหวังอย่างสูงสุด ต่อคำมั่นสัญญาต่างๆที่ นาย
นาเรนทรา โมดิ ได้หาเสียงไว้
และหนึ่งในหลายคำมั่นสัญญาเหล่านั้น คือ เขาสัญญาว่าจะสร้าง
วัดฮินดูขึ้นในเมืองอโยธยาให้ได้...
ฤาความไม่สงบในอินเดีย กำลังจะปทุขึ้นอีกครั้ง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น