วันอาทิตย์ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

บางอย่างที่ดีขึ้นของอินเดีย

มีข้อคิดจากการเดินทางไปประชุมที่ดูไบเร็วๆนี้ ระหว่างเข้าแถวตรวจคนเข้าเมืองเดินทาง มี 3แม่ลูกสาว อยู่คิวหน้าผม และหนุ่มหล่อ 1 คนอยู่คิวตามหลังติดกับผม

วันนั้นคิวยาวและรอนานพอสมควรครับ ขณะอีก คิวจะถึงคิว แม่ลูก เขาก็รู้ว่าลืมกรอกแบบฟอร์มออกต่างประเทศ เหลียวซ้ายหันขวา เห็นว่าก็ไกลพอสมควรที่จะเดินออกไปหาแบบฟอร์ม และทำหน้าท้อใจที่อุตส่าห์เข้าคิวมาตั้งนาน กะลังจะถึงคิวอยู่แล้ว ทันใดนั้นหนุ่มหล่อ ก็ออกตัวอาสา บอกว่าไม่เป็นไรให้รอคิวอยู่ที่นี่แหละ ว่าแล้วเขาก็จั้มเอ้าโดยเร็ววิ่งไปหาฟอร์มที่ว่ามาให้ ตอนถึงเขาหอบพอสมควร เพราะวิ่งไปเร็วจะให้ทันรีบกลับมาทันคิว ผมเห็น 3 แม่ลูกรับฟอร์มไปแล้ว ก็รีบเอาไปกรอกโดยไม่ได้กล่าวขอบคุณชายที่ว่าแต่อย่างใด ชายคนดังกล่าวรู้สึกอะไรมั่ง ผมไม่รู้ แต่ผมรู้สึกครับ

ความรู้สึกแรก ที่ 3 แม่ลูกไม่ได้กล่าวขอบคุณ นี่คือสิ่งสะท้อนสังคมโดยทั่วไปของอินเดีย ที่ต่างคนต่างอยู่ความเอื้ออาทรต่อกันมีน้อยเพราะสภาพทางสังคมบังคับ ต่างชาติจะเห็นพฤติกรรมแบบนี้ชัดจากเด็กขอทานข้างถนน ที่แม้คุณให้ทานไปแล้วกี่คนก็ตาม คุณจะไม่ได้ยินคำขอบคุณจากเด็กเหล่านั้นเลย เขาเชื่อว่าที่เขาได้รับทานนั้น เพราะความสามารถของเขาเอง

ความรู้สึกที่สอง เป็นความรู้สึกที่ดีมากๆที่เห็นชายหนุ่มมีน้ำใจวิ่งไปหาแบบฟอร์มมาให้ 3แม่ลูก ซึ่งเป็นเรื่องที่เห็นได้ไม่บ่อยในสังคมอินเดีย แสดงว่าเดี๋ยวนี้อินเดียสมัยใหม่ อาจจะจากวุฒิภาวะการศึกษาที่ดีขึ้น หรือการหลั่งใกลของวัฒนธรรมจากต่างชาติ เข้ามาผ่านช่องทางใดก็แล้วแต่ ทำให้คนรุ่นหลัง มีการพัฒนาทางจิตใจเรื่องความเอื้ออาทรต่อกัน ไปในทางที่ดีขึ้น

ความรู้สึกสุดท้าย ย้อนกลับมานึกตอนผมกลับมาไทยในแต่ละครั้ง ความเอื้ออาทร เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อกัน ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ดีของคนไทยส่วนใหญ่ มาอย่างยาวนาน ยอมรับว่าเดี๋ยวนี้หายไปเยอะครับ

รึเรากำลังเดิน สวนทางกับอินเดีย.เฮ้อ...เศร้า


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น