วันพุธที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

อย่าสร้างกรอบขังตัวเอง

วันหนึ่งผมไปตีก็อล์ฟที่สนามแห่งหนึ่งในมุมไบ จำได้ว่าวันนั้นเป็นวันหยุดเทศกาลไปถึงจึงทราบว่า แค้ดดี้มีไม่พอเพราะหยุดไปตามเทศกาลกันหมด ก๊วนก่อนผมเป็นอินเดียท่าทางจะเป็นเมมเบอร์สนามเพราะเห็นยืนโล้งเล้งกับแค้ดดี้มาสเตอร์ว่าทำไมไม่มีแค้ดดี้ อย่างนี้ก็ออกไม่ได้สิ

ก๊วนเราคนไทยคิวต่อจากอินเดียก็รู้สึกเซ็งนิดๆเพราะรู้ว่า วันนี้คงต้องลากถุงเองอีกแล้ว ว่าแล้วเราก็ไปติดต่อหา รถลากถุงก็อล์ฟ ได้แล้วก็มาเตรียมตัวออกทีออฟ
ก๊วนถัดจากก๊วนผมเป็นเกาหลี ผมเห็นเขาเดินมาคุยกับ แค้ดดี้มาสเตอร์ แป้ปเดียว จากนั้นทั้ง 3 คนของก็วน ก็เดินแบกถุงตัวปลิวออกรอบไปก่อนใคร ก๊วนผมก็ลากถุงตามไปเป็นก๊วนถัดมา ผมทีออฟลูกออกไปแล้ว เดินออกไปจากหลุม 1 หันหลังกลับไป ก็ยังเห็นก็วนอินเดียโล้งเล้งกับแค้ดดี้มาสเตอร์อยู่ที่แท่นทีออฟยังไม่จบ
สิ่งที่เกิดขึ้นนี้เป็นเรื่องจริง ทุกองค์กรไม่ว่าเล็กใหญ่ไม่ว่าของประเทศอะไร เราต่างก็เจอเห็นพฤติกรรมของคน 3 ประเภทนี้ได้เสมอๆ
·       ประเภทแรก คนแบบนี้เอาเป้าหมายเป็นที่ตั้ง แล้วหาวิธีการเพื่อให้ถึงวัตถุประสงค์นั้น เขาพร้อมที่จะคิดสิ่งใหม่ๆแล้วปรับปรุงวิธีการไปตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปทุกขณะ โดยไม่ยอมให้เสียเวลาไปอย่างเปล่าประโยชน์
·       ประเภทที่ 2 คนประเภทนี้ต้องอาศัยตัวช่วยเล็กน้อย อาจจะเป็นคำปรึกษา คำอธิบายวิธีการใหม่ที่ใช้ได้เหมือนกัน เขาก็จะทำตามและได้วัตถุประสงค์เดียวกัน อาจจะเสียเวลาในการเรียนรู้ตอนแรกเล็กน้อย
·       ประเภทสุดท้าย เป็นบุคคลที่ยึดติดกับธรรมเนียมปฏิบัติแบบเก่าๆ กฎระเบียบที่มีอยู่ ปฏิบัติมาอย่างไรก็จะไปอย่างนั้นสุดท้ายแล้วก็จะใช้เวลาไปกับการหาทางออกแบบเดิม เสียเวลา และท้ายสุดแล้วเป้าหมายที่ต้องการก็เลื่อนออกไปหมด
การที่องค์กรหรือประเทศของเราจะเดินหน้าก้าวพ้นปัญหาไปได้ และเจริญรุ่งเรื่องได้อย่างมั่นคงและถาวรนั้น เราทุกคนซึ่งเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรหรือประเทศชาติ จะต้องคิดแบบคนประเภทที่ 1 หรือ 2 ครับ
เป้าหมายต้องมาก่อน วิธีการ กฎระเบียบ ปรับเปลี่ยน ปรับปรุงได้ตามสถานการณ์ครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น